วันพฤหัสบดีที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2559

ข้อมูลผู้จัดทำ




 นางสาวกัญญาวีร์  เวชพันธ์

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 เลขที่ 24


การทำบล็อกนี้เป็นส่วนหนึ่งในรายวิชา ง 30201 เทคโนโลยีสารสนเทศ

เสนอ ครูศรัณย์  จันทร์แดง

โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม 
( พระตำหนักสวนกุหลาบมัธยม )

ภาพการ์ตูนสวยๆ จาก http://reincarnatedparano.deviantart.com/art/Commission-
                                     Doodlz18-349215121

หนอนคอมพิวเตอร์ "WORM"

เวิร์ม คือ ?

         เวิร์มมีลักษณะคล้ายไวรัส คือเป็นโปรแกรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อคัดลอกตัวเองจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งโดยอัตโนมัติ จากการเข้าควบคุมคุณสมบัติบางอย่างของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ส่งถ่ายไฟล์หรือข้อมูล เมื่อเวิร์มเข้ามาอยู่ในระบบของคุณแล้ว จะสามารถแพร่กระจายด้วยตัวเองได้ สิ่งที่เป็นอันตรายที่สุดของเวิร์มก็คือ ความสามารถในการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วได้เป็นจำนวนมาก 

ตัวอย่าง


   เวิร์มสามารถส่งสำเนาของเวิร์มไปยังทุกคนที่มีรายชื่อในสมุดบันทึกอีเมลแอดเดรสของคุณ และคอมพิวเตอร์ของเจ้าของรายชื่อเหล่านั้นก็จะดำเนินการเช่นเดียวกัน เกิดเป็นผลกระทบแบบต่อเนื่องจากการส่งข้อความในเครือข่ายอย่างหนักจนทำให้การทำงานของเครือข่ายช้าลงรวมทั้งมีผลต่ออินเทอร์เน็ตด้วย เมื่อมีการปล่อยเวิร์มใหม่ๆออกมา เวิร์มเหล่านี้จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้เครือข่ายติดขัดและอาจทำให้คุณ (หรือคนอื่นๆ) ต้องรอนานเป็นสองเท่าในการชมเว็บเพจบนอินเทอร์เน็ต 

ประเภทของหนอนคอมพิวเตอร์


  • Email worm เป็นเวิร์มที่อาศัยอีเมล์เป็นพาหะเช่น Mass-mailing worm เป็นเวิร์มที่สามารถค้นหารายชื่ออีเมล์ในเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อแล้วก็ส่งตัวเองไปยังที่อยู่อีเมล์เหล่านั้น


  • File-Sharing Networks Worm เป็นเวิร์มที่คัดลอกตัวเองไปไว้ในโฟลเดอร์ที่ขึ้นต้นหรือประกอบด้วยคำว่า sha และแชร์โฟลเดอร์ของโปรแกรมประเภท Peer to Peer (P2P) เช่นเวิร์มที่มีชื่อว่า KaZaa Worm เป็นต้น


  • Internet Worm หรือ Network Worm เป็นเวิร์มที่โจมตีช่องโหว่ของโปรแกรมและระบบปฎิบัติการต่างๆเช่น Blaster worm และ Sasser worm ที่ได้เป็นที่รู้จักกันดี


  • IRC Worm เป็นเวิร์มที่ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ในห้องสนทนา (Chat room) เดียวกัน


  • Instant Messaging Worm เป็นเวิร์มที่ส่งตัวเองจากเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อไปหาคนที่อยู่ใน Contact list ผ่านทางโปรแกรม Instant Messaging หรือ IM เช่นโปรแกรม MSN และ ICQ เป็นต้น

ข้ออันตรายของ "เวิร์ม"



เนื่องจากเวิร์มไม่ต้องอาศัยโปรแกรมที่เป็น "โฮสต์" หรือไฟล์ในการเคลื่อนย้ายตัวเอง จึงสามารถฝังตัวเองในระบบของคุณและทำให้ผู้อื่นสามารถเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์ของคุณจากระยะไกลได้ ตัวอย่างเช่น เวิร์ม MyDoom ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ได้รับการออกแบบมาให้เปิด "ประตูหลัง" ของระบบที่ติดเวิร์มดังกล่าว และใช้ระบบนั้นโจมตีเว็บไซต์ต่างๆ


รูปภาพนี้จาก
 http://reincarnatedparano.deviantart.com/art/MB-Attached-337781256
        
        ขอขอบคุณข้อมูลจาก 
       https://www.microsoft.com/thailand/security/Safety.aspx?                                          GroupID=2&No=4
       http://jokkerjupjif.blogspot.com/2013/06/blog-                                                           post_29.html


"ไวรัส" ตัวร้าย

วรัส คือ ?




             โปรแกรมชนิดหนึ่งที่มีความสามารถในการสำเนาตัวเองเข้าไปติดอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ได้และถ้ามีโอกาสก็สามารถแทรกเข้าไประบาดในระบบคอมพิวเตอร์อื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการนำเอาดิสก์ที่ติดไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปใช้กับอีกเครื่องหนึ่ง หรืออาจผ่านระบบเครือข่ายหรือระบบสื่อสารข้อมูลไวรัสก็อาจแพร่ระบาดได้เช่นกัน    

คอมพิวเตอร์ติดไวรัส คือ ?


       ไวรัสได้เข้าไปฝั่งตัวอยู่ในหน่วยความจำ คอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากไวรัสก็เป็นแค่โปรแกรม ๆ หนึ่ง การที่ไวรัสจะเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำได้นั้นจะต้องมีการถูกเรียกให้ทำงานหรือขึ้นอยู่กับประเภทของไวรัสแต่ละตัว ปกติผู้ใช้มักจะไม่รู้ตัวว่าได้ทำการปลุกคอมพิวเตอร์ไวรัสขึ้นมาทำงานแล้ว

อาการคอมพิวเตอร์ติดไวรัส




                 ลองสังเกตคอมพิวเตอร์ของคุณสักนิด หากเครื่องของคุณมีอาการเหล่านี้อาจมีไวรัสเข้าไปติดในเครื่องแล้วก็ได้

    • ใช้เวลานานผิดปกติในการเรียกโปรแกรมขึ้นมาทำงาน
    • ขนาดของโปรแกรมใหญ่ขึ้น
    • วันเวลาของโปรแกรมเปลี่ยนไป
    • ข้อความที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นกลับถูกแสดงขึ้นมาบ่อย ๆ
    • เกิดอักษรหรือข้อความประหลาดบนหน้าจอ
    • เครื่องส่งเสียงออกทางลำโพงโดยไม่ได้เกิดจากโปรแกรมที่ใช้อยู่
    • แป้นพิมพ์ทำงานผิดปกติหรือไม่ทำงานเลย
    • ขนาดของหน่วยความจำที่เหลือลดน้อยกว่าปกติ โดยหาเหตุผลไม่ได้
    • ไฟล์แสดงสถานะการทำงานของดิสก์ติดค้างนานกว่าที่เคยเป็น
    • ไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมที่เคยใช้  อยู่ ๆก็หายไป
    • เครื่องทำงานช้าลง
    • เครื่องบูตตัวเองโดยไม่ได้สั่ง
    • ระบบหยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ
    • เซกเตอร์ที่เสียมีจำนวนเพิ่มขึ้นโดยมีการรายงานว่าจำนวนเซกเตอร์ที่เสียมีจำนวน เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนโดยที่
    • ยังไม่ได้ใช้โปรแกรมใดเข้าไปตรวจหาเลย

จุดประสงค์ของ "ไวรัส"


             จุดประสงค์ของการทำงานของไวรัสแต่ละตัวขึ้นอยู่กับตัวผู้เขียนโปรแกรมไวรัสนั้น เช่น อาจสร้างไวรัสให้ไปทำลายโปรแกรมหรือข้อมูลอื่น ๆ ที่อยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ แสดงข้อความวิ่งไปมาบนหน้าจอ เป็นต้น






คำแนะนำและการป้องกัน

  • สำรองไฟล์ข้อมูลที่สำคัญ
  • สำหรับเครื่องที่มีฮาร์ดดิสก์ อย่าเรียกดอสจากฟลอปปีดิสก์
  • ป้องกันการเขียนให้กับฟลอปปีดิสก์
  • อย่าเรียกโปรแกรมที่ติดมากับดิสก์อื่น
  • เสาะหาโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใหม่และมากกว่าหนึ่งโปรแกรมจากคนละบริษัท
  • เรียกใช้โปรแกรมตรวจหาไวรัสเป็นช่วง ๆ
  • เรียกใช้โปรแกรมตรวจจับไวรัสแบบเฝ้าดูทุกครั้ง
  • เลือกคัดลอกซอฟแวร์เฉพาะที่ถูกตรวจสอบแล้วในบีบีเอส
  • สำรองข้อมูลที่สำคัญของฮาร์ดดิสก์ไปเก็บในฟลอปปีดิสก์
  • เตรียมฟลอปปีดิสก์ที่ไว้สำหรับให้เรียกดอสขึ้นมาทำงานได้
  • เมื่อเครื่องติดไวรัส ให้พยายามหาที่มาของไวรัสนั้น

"อย่าให้ไวรัสทำร้ายคุณ และคอมพิวเตอร์คุณ"


ภาพการ์ตูนรูปนี้จาก  http://reincarnatedparano.deviantart.com/art/MB-Attached-337781256

ขอขอบคุณข้อมูลจาก   https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/virus/